ตลาดรถยนต์ไฟฟ้า (EV) ในยุโรปกำลังร้อนแรงขึ้นเรื่อย ๆ และหนึ่งในผู้เล่นที่ถูกจับตามากที่สุดคือ BYD แบรนด์รถยักษ์ใหญ่จากจีนที่ครองยอดขายสูงสุดในบ้านเกิดมาแล้วหลายปี การบุกยุโรปครั้งนี้ไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะผู้บริโภคที่นี่คุ้นเคยกับ “รถเล็ก” เป็นพิเศษ และมีมาตรฐานสูงกว่าตลาดอื่น ๆ หากรถให้ความรู้สึกถูก ๆ ก็มักไปไม่รอด
ดังนั้น BYD จึงส่ง Seagull ซึ่งทำยอดขายถล่มทลายในจีน มารีแบรนด์ใหม่เป็น Dolphin Surf สำหรับตลาดยุโรป (และในบางประเทศเรียกว่า Dolphin Mini) รถคันนี้ไม่ใช่แค่ “ถูก” แต่ยังทำให้หลายคนแปลกใจว่า รถไฟฟ้าขนาดเล็กสามารถให้ความรู้สึกหรูและมีคุณภาพได้ขนาดนี้เลยหรือ?
ดีไซน์ภายนอก: รถเล็กหน้าตาไม่ธรรมดา
ครั้งแรกที่ได้เห็น Dolphin Surf ตัวจริง ต้องบอกว่ามันดูดีกว่าที่คาดไว้มาก เส้นสายตัวรถโฉบเฉี่ยว มีความสดใหม่ ไม่ได้ดูเรียบง่ายหรือน่าเบื่อเหมือน EV เล็กหลายรุ่นในตลาด แถมยังเปรียบได้กับ Hyundai Inster ที่ขึ้นชื่อว่าเป็นหนึ่งในรถเล็กที่ออกแบบได้สวยที่สุด
ด้านหน้ารถได้แรงบันดาลใจจาก Lamborghini ชัดเจน ทั้งรูปทรงไฟหน้า กันชน และเส้นสายที่ดุดัน แต่ไม่ถึงขั้นลอกเลียนแบบ จุดนี้ทำให้ Dolphin Surf เป็นรถเล็กที่ “มีตัวตน” บนท้องถนน เวลามองในกระจกหลังแล้วรู้สึกได้ทันทีว่ารถคันนี้ไม่ธรรมดา
BYD ยังเลือกสีเขียว “Toxic Green” ที่สะดุดตา พร้อมล้อแบบ Y-Spoke สีเทาเมทัลลิก ยิ่งเสริมความสปอร์ตมากขึ้น ตัวถังด้านข้างโดดเด่นด้วยฐานล้อยาวเกือบ 2.5 เมตร ทำให้ดูมั่นคงและปราดเปรียว ขณะเดียวกันก็เพิ่มพื้นที่ห้องโดยสารได้อย่างเหลือเชื่อ
ท้ายรถอาจไม่หวือหวาเท่าด้านหน้า แต่ยังได้ไฟท้ายยาวเต็มคันและดิฟฟิวเซอร์ปลอม ที่ช่วยเชื่อมโยงภาพลักษณ์สปอร์ตโดยรวม ทำให้ Dolphin Surf ดูน่าสนใจกว่าคู่แข่งจากจีนที่วางขายในยุโรป เช่น Leapmotor T03
ภายในห้องโดยสาร: คุ้มค่ากว่าที่คิด
เมื่อก้าวเข้ามาในห้องโดยสาร ความรู้สึกแรกคือ “นี่มันรถเล็กราคาไม่ถึง 20,000 ยูโรจริงเหรอ?” แม้วัสดุแผงคอนโซลจะไม่หรูหรามากนัก แต่ดีไซน์สมัยใหม่และการจัดวางทำให้บรรยากาศภายในดูพรีเมียมเกินราคา
พวงมาลัยสามก้านจับกระชับมือ ดีกว่าคู่แข่งอย่าง Dacia Spring หรือ Leapmotor T03 ชัดเจน เบาะนั่งทรงสปอร์ตหุ้มด้วยหนังวีแกนแบบเจาะรู ระบายอากาศได้ดี แถมมีพนักพิงศีรษะในตัว รุ่นที่ผมทดลองขับยังมาพร้อมการปรับไฟฟ้าและระบบอุ่น ซึ่งถือว่า “หรูเกินคาด” สำหรับรถไซซ์นี้
หน้าจอกลางขนาด 10.1 นิ้ว สามารถหมุนได้ทั้งแนวตั้งและแนวนอน แม้จะดูเป็นลูกเล่น แต่ก็แสดงให้เห็นถึงความพยายามของ BYD ที่จะใส่เทคโนโลยีเกินมาตรฐานเข้ามาในรถเล็ก ๆ เช่นนี้
ที่สำคัญคือพื้นที่เบาะหลัง กว้างเกินคาดมาก ผมสูง 183 ซม. ยังมีที่วางขาเหลือ 3 นิ้วโดยไม่ชนเบาะหน้า ทั้งหมดนี้ต้องยกเครดิตให้ฐานล้อยาวที่ BYD ออกแบบมาอย่างชาญฉลาด
ขุมพลังและสมรรถนะ
สำหรับเวอร์ชันยุโรป Dolphin Surf ถูกปรับกำลังเพิ่มจากรุ่นจีน โดยรุ่นเริ่มต้นได้ 88 แรงม้า (จีนมี 75 แรงม้า) ส่วนรุ่นท็อปจัดเต็มที่ 155 แรงม้า ทำ 0–100 กม./ชม. ได้เพียง 9.1 วินาที ซึ่งถือว่าแรงเกินพอสำหรับรถเล็กที่ใช้งานในเมือง
เทคโนโลยีและความปลอดภัย BYD Dolphin Surf มาพร้อมอุปกรณ์ความปลอดภัยครบครัน ได้แก่
- กล้องรอบคัน 360 องศา
- Adaptive Cruise Control
- ระบบช่วยประคองเลน
- ไฟสูงอัตโนมัติ
- ระบบเบรกฉุกเฉินอัตโนมัติ
- กล้องภายในตรวจจับคนขับ
ออปชันทั้งหมดนี้ทำให้ Dolphin Surf มีโอกาสคว้ามาตรฐาน Euro NCAP 5 ดาว ได้ไม่ยาก
แบตเตอรี่รถยนต์ไฟฟ้า BYD Dolphin มีให้เลือก 2 ขนาด: 30 kWh และ 43.2 kWh รุ่นใหญ่ทำระยะทางได้สูงสุดราว 322 กม. ต่อการชาร์จ (มาตรฐาน WLTP) ซึ่งถือว่าเพียงพอสำหรับการใช้งานจริงในเมืองและชานเมือง
ประสบการณ์ขับขี่
แม้จะได้ลองขับเพียงครึ่งชั่วโมง แต่ Dolphin Surf ก็แสดงให้เห็นถึงสมดุลที่ดี รถขับนิ่มนวลพอสมควรแต่ไม่ย้วยจนเสียความมั่นใจ พวงมาลัยแม่นยำ การควบคุมคล่องตัว เหมาะอย่างยิ่งสำหรับสภาพการจราจรติดขัดในเมืองใหญ่ของยุโรป และผมสามารถจินตนาการได้ทันทีว่ามันจะเป็นเพื่อนคู่ใจในชีวิตประจำวัน
ราคาและความคุ้มค่า
จุดขายสำคัญที่สุดคือราคา หลังหักเงินสนับสนุนจากรัฐบาลโรมาเนีย (โครงการแลกรถเก่าเป็นรถ EV มูลค่าสูงสุด 8,700 ยูโร) คุณสามารถเป็นเจ้าของ Dolphin Surf ได้ในราคาเพียง 11,500 ยูโร หรือประมาณ 490,000 บาท
แม้จะไม่มีส่วนลดก็ยังอยู่ต่ำกว่า 20,000 ยูโร ซึ่งทำให้ Dolphin Surf กลายเป็นหนึ่งในรถไฟฟ้าที่เข้าถึงง่ายที่สุดในยุโรป และเมื่อเทียบกับคู่แข่งโดยตรงที่มีเพียง Dacia Spring และ Leapmotor T03 ก็ถือว่ามีความได้เปรียบทั้งด้านดีไซน์ เทคโนโลยี และความคุ้มค่า
สรุป
BYD Dolphin Surf เป็นตัวอย่างชัดเจนว่ารถเล็กไม่จำเป็นต้อง “ถูกและรู้สึกถูก” อีกต่อไป มันมีดีไซน์โดดเด่น ห้องโดยสารกว้างเกินตัว อัดแน่นด้วยเทคโนโลยีความปลอดภัย สมรรถนะเกินพอ และราคาที่คุ้มค่าแบบหาตัวจับยาก การบุกยุโรปครั้งนี้ของ BYD อาจไม่ใช่เรื่องง่าย แต่ Dolphin Surf ก็พิสูจน์แล้วว่าแบรนด์จีนไม่ได้มาเล่น ๆ หากค่ายรถยุโรปอย่าง Volkswagen หรือ Dacia ไม่รีบขยับ อาจต้องเจอคู่แข่งรายใหม่ที่น่ากลัวกว่าที่คิด